หลายๆครั้ง ที่สมาชิกในเพจ หรือ ในกลุ่ม ถามปัญหาต่างๆ มาในสารพัดรูปแบบ พอถามถึงค่าน้ำต่างๆ เอาแค่หลักๆ เช่น No2(ไนไตรท์) No3(ไนเตรด) Po4(ฟอสเฟส) Kh(คาร์บอเนต) สรุปคำตอบของผู้ตั้งคำถามก็คือ 'ไม่ทราบครับ/คะ ยังไม่ได้วัด'(เอ้า ทำไม่วัด?) 'ไม่ทราบครับ/คะ ไม่มีตัววัด'(เอ้าทำไมไม่ซื้อมาวัด?) อะไม่เป็นไร....
ถามต่ออีกนิด ค่าความเค็มเท่าไหร่ครับ/ใช้ตัวอะไรวัด กล้องส่อง ถ้วยตวง ปรอท ฯลฯ ที่จะมีขายในท้องตลาด ส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นแบบ ปรอท และถ้วยตวง ซึ่งอาจโดนหลอกขายมาจากร้านค้าว่าใช้ได้ เพียงพอ บลาๆ หรืออาจจะด้วย กล้องส่องมีราคาแพง ไม่อยากเสียเงินเยอะ สำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่เราไม่ว่ากัน แต่หากเลี้ยงมานานแล้ว และอยากจะเลี้ยงต่อไป อยากให้ซื้อตัววัดความเค็มแบบกล้องส่องครับ เพราะเป็นหน่วยวัดความเค็มที่เที่ยงตรงที่สุดในขณะนี้ แม้แต่ใน แลป เขาก็ใช้กัน
เพราะฉะนั้น อุปกรณ์ วัดค่าต่างๆ จำพวกนี้ เป็นสิ่งจำเป็นนะครับ สำหรับการเลี้ยงตู้ทะเล เพราะหากไม่มีเราก็จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ปัญหาเกิดจากอะไร ปัญหามาจากไหน เช่น
ปลาป่วย ซื้อมาลงเท่าไหร่ก็ไม่รอด อยู่ได้ไม่นานก็ต้องมีอันตายลง ไม่ว่าจะจากโรค หรือหาสาเหตุไม่เจอ นั่นอาจจะเกิดมาจาก ความเค็มที่เค็มเกินไป โดยใช้อุปกรณ์วัดความเค็มที่ไม่ได้มาตรฐาน ความเค็มอาจจะโดดไป 40+ สิ่งมีชีวิต ก็อาจปรับสภาพ หรือรับสภาพไม่ได้ หรืออีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ พี่ครับ/คะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารันน้ำเรียบร้อยแล้ว หรือพอแล้วสำหรับช่วงรันน้ำ ไม่มีใครบอกได้หรอกครับ นอกจากจะวัด โดยใช้ ตัวเทสต์วัดไนไตรท์(No2) หากเป็น 0 เมื่อไหร่ ก็แสดงว่าเราผ่านพ้นช่วงรันน้ำมาแล้ว ระบบของเราพร้อมแล้วที่จะเริ่มลงสิ่งมีชีวิต เป็นต้น
เรามาดูกันว่าค่าต่างๆ ที่ใช้วัดกันมีอะไรบ้าง
- NH3 ย่อมาจาก ค่าแอมโมเนีย ----> จำเป็นแค่ช่วงรันน้ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อ เพราะผ่านช่วงรันน้ำจะกลายเป็น No2 หรือไนไตรท์
- No2 ย่อมมาจาก ค่าไนไตรท์ ----> จำเป็นต้องซื้อ เอาไว้ใช้วัดช่วงรันน้ำ และค่า No2 ต้องเป็น 0 เท่านั้นและทุกเวลา มีผลต่อ กุ้ง หอย ปู ปลา โดยตรง
- No3 ย่อมาจาก ค่าไนเตรด ----> ผู้ที่เลี้ยงปะการังจำเป็นต้องซื้อ มีผลโดยตรงต่อปะการัง ปะการังบางชนิดหากค่า No3 เยอะมากจนเกินไป จะทำให้ดรอป ร่อน ฟอกขาว จนถึง ตายในที่สุด
- KH ย่อมาจาก ค่าคาร์โบเนต ----> จำเป็นต้องซื้อสำหรับผู้ที่เลี้ยงปะการังที่มีจำพวกโครงแข็ง ค่านี้จะเป็นตัวที่บ่งบอกถึง ค่า Ph Ca และ Mg ของน้ำในระบบได้ ค่าที่ดีควรอยู่ที่ 8-10
- Po4 ย่อมาจาก ค่าฟอสเฟส ----> ค่าฟอสเฟส มีผลโดยตรงกับเรื่องของตะไคร่ เป็นผลพวงมาจากน้ำที่ใช้ใส่ในระบบ และการให้อาหารปลาเยอะจนเกินไป หากไม่รบกวนค่าขนมก็ควรมีติดไว้
- Ph ย่อมาจาก ค่าความเป็นกรด-ด่าง ----> ความเป็นกรด-ด่างของน้ำในระบบควรอยู่ที่ 8.1-8.4 หากมีไว้ก็ดีเพราะน้ำแต่ละที่ ค่า Ph ต่างกัน บางครั้งเป็นจุดหนึ่งที่หลายคนมองข้าม
- Ca ย่อมาจาก ค่าแคลเซียม ----> แคลเซียมส่วนใหญ่จะใช้กับตู้ที่เลี้ยงปะการังจำพวกโครงแข็ง ไม่ว่าจะเป็น LPS และ SPS หากตู้มีแค่ปลาล้วนหรือมีแต่ปะการังอ่อน ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้
- Mg ย่อมาจาก ค่าแมกนีเซียม ---->แมกนีเซียม เช่นเดียวกับ Ca หากไม่ได้เลี้ยงปะการังจำพวกโครงแข้งหรือปะการังเขา ไม่ต้องมีก็ได้
*วงจรระบบตู้ทะเล* แอมโมเนีย(NH3)>>>ไนไตรท์(No2)>>>ไนเตรท(No3)*
และนี่ก็คือความสำคัญสำหรับการเช็ควัดค่าน้ำ ในรูปแบบต่างๆ หากจะซื้อครบชุดก็อาจจะต้องเสียเงินอีก หลาย1000 บาท แต่เสียเงินครั้งเดียวมันก็ใช้งานได้นานโขอยู่ คุ้มครับกับเม็ดเงินที่เสียไป
