พอเรารู้ถึงความต้องการของเราแล้วว่าเราต้องการที่จะตั้งตู้ทะเลสวยงามสักตู้ ข้อมูลต่อมาที่เราต้องทราบ เราก็จะต้องมาเรียนรู้กับสิ่งที่จำเป็นๆ กันก่อน ว่าเราจะต้องใช้อะไรกันบ้าง อุปกรณ์มีอะไรบ้าง
สิ่งที่ควรต้องมีสำหรับการตั้งตู้ทะเลสวยงามมีดังนี้
1.ตู้หลักหรือตู้โชว์ และตู้กรอง
ตู้หลักหรือตู้โชว์ก็คือ ตู้สำหรับเลี้ยงปลาทะเลและปะการังต่าง แต่ความหนาของน้ำทะเลก็จะต้องมีความหนากว่าน้ำจืดตู้ที่มีขายกันตามท้องตลาด ซึ่งแน่นอนเราจะต้องสั่งตัด ให้เหมาะสมกับพื้นที่วางและความต้องการ รวมถึงเงินในกระเป๋าของเรา ซึ่งก็ต้องมีราคาแพงกว่าตู้ตามท้องตลาดแน่นอน 100% พร้อมทั้งยังต้องเจาะรู น้ำลงเพื่อเดินระบบน้ำเพื่อลงสู่ระบบกรองต่อไป
ตู้กรอง ตู้กรองในที่นี้หมายถึง ตู้ที่ใช้สำหรับกรองหรือใส่อุปกรณ์ต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องมี เพื่อให้เป็นการไหลเวียนของน้ำที่ดี และเพื่อมีระบบการกำจัดของเสียที่มีประสิทธิภาพ
2.ขาวางตู้หลักและตู้กรองหรือเรียกกันทั่วๆไปว่า ขาไม้ อ้าวทำไมต้องใช้เป็นขาไม้ ขาเหล็กที่เขามีขายทั่วไปใช้ไม่ได้หรือ ถ้าว่าใช้ได้หรือไม่สำหรับขาเหล็ก ตอบแบบซื่อๆว่าใช้ได้ แต่หากเนินนานไป ความเค็ม น้ำเค็ม หรือน้ำทะเลที่เราใช้ มันก็จะกัดกร่อนจนเป็นสนิม และสิ่งที่จะตามต่อมาก็คงไม่ต้องพูดถึงครับ
เพราะฉะนั้น นักเลี้ยงตุ้ทะเลส่วนใหญ่ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องขาหรือชั้นวางตู้ปลาเป็นอย่างมาก เพราะจะได้เลี้ยงกันได้แบบยาวๆ โดยไม่ต้องมาพะวงกับการเลี้ยงเพราะการเปลี่ยนขาไม้แต่ลครั้งจะต้องรื้อตู้รือของ เอาน้ำออกจากตู้ทั้งหมด ซึ่งเป็นความยุ่งยากมากๆ
3.ปั๊มน้ำ การเลือกใช้ปั๊มน้ำ การเลือกปั๊มน้ำมาใช้กับตู้ทะเล ส่วนใหญ่จะต้องเลือกใช้ปั๊มน้ำที่แกนปั๊มเป็นเซรามิก เพื่อป้องกันการเกิดสนิม ซึ่งก็จะมีราคาแพงกว่า ปั๊มน้ำทั่วไปแน่นอน
วิธีการเลือกซื้อปั๊มน้ำ ให้เราคำนวนน้ำทั้งหมดทั้งตู้หลักและตู้กรอง การคำนวนก็คลิกได้ที่ลิงค์ได้เลยครับ(http://aqua.c1ub.net/calculator.htm) โดยหากเขาคำนวนน้ำในตู้ของเราเรียบร้อยแล้วให้เรา x ด้วย 1000 ก็จะได้ปั๊มน้ำที่เหมาะสมที่เราจะใช้กับตู้ของเราแล้ว เช่น มวลน้ำทั้งหมด =300 ลิตร ก็ให้เอา 300 x 10 = 3000 ปั๊มน้ำที่เราต้องใช้ก็คือ 3000 L/h เป็นต้น
4.สกิมเมอร์ สกิมเมอร์คืออะไร? สกิมเมอร์คือตัวที่ทำหน้าที่ดูน้ำเข้าไปในตัวของมันแล้วทำการปั่นน้ำให้เป็นฟองละเอียด แล้วฟองก็จะดันตัวของมันเอง ล้นไปยังถ้วยรองรับของเสีย ซึ่งจำเป็นมากสำหรับตู้ทะเลทุกๆตู้ วิธีก็คือน้ำมวลน้ำในตู้ทั้งตู้หลักและตู้กรองของเรามาคำนวนรวมกันแล้ว x 3 ก็จะได้ขนาดสกิมเมอร์ที่เหมาะสมกับระบบของคุณ
5.ระบบไฟ ระบบไฟในที่นี้ก็จะหมายถึง โคมไฟที่สำหรับใช้ส่องแสงสว่างที่ตู้หลัก ก็จะมีหลายแบบได้แค่ T5ho Mh และLED ซึ่งก็จะมีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแบบ และหลากหลายการใช้งาน จะเป็นตัวขับสีของปลาและปะการังที่คุณมีแทนการสังเคราะห์แสงด้วยดวงอาทิตย์
6.หินเป็น/หินตาย/หินเป็นเทียม อะไรหว่า หินเป็น หินตาย หินเป็นเทียม คืออะไร มาจากไหน ทำยังไง ซื้อที่ไหน มาดูกัน
-หินเป็น หินเป็นก็คือหินโสโครก ที่อยู่ในทะเลและมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ในหินนั่นเอง หินเป็นนั้นมีหลายเกรด หลายแบบ หลายทรง ให้ได้เลือกตามความเหมาะสมของตุ้หรือตามความเหมาะสมของผู้ซื้อ โดยหินเป็นที่ดี จะต้องไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า ไม่มีราขึ้นที่ตัวหิน มีน้ำหนักที่เบา และหินเป็นบางก้อนยังมีปะการังติดมาด้วย หาซื้อได้ตามสวนจตุจักร หรือตามร้านที่นำมาขาย
-หินตาย คือ หินเป็นที่นำมาผ่านกรรมวิธีทำให้ตาย ทำได้หลายวิธีเช่น นำหินมาต้ม นำหินไปตากแดด แล้วจึงค่อยนำมาใช้งาน
-หินเป็นเทียม คือ หินที่มนุษย์จำลองทำขึ้นมาเอง โดยการใช้ปูน+ทราย ผสมกับน้ำ แล้วลงใส่ในแม่พิมพ์ พอแห้งแล้วก็นำไปบำบัดค่า Ph หรือความเป็นกรดด่าง อีกที ซึ่งก็จะจำลองให้คล้ายคลึงกับหินเป็นในทะเลให้ได้มากที่สุดคือทำให้เป็นโพรง เป็นรูพรุน ต่างๆ ที่ตัวหิน
7.ระบบทำความเย็น ทำไมถึงต้องมี?? เพื่อให้อุณหภูมิ น้ำในตู้คลาดเคลื่อนน้อยที่สุด และให้มีความเย็นที่คงที่ตลอดวัน ซึ่งจำเป็นพอสมควรสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกประเภทที่อยู่ใต้ท้องทะเล ระบบทำความเย็นก็มีหลายแบบ เช่น
-พัดลม สามารถลดอุณหภูมิในน้ำได้ประมาณ 1-2 องศา แต่การคลาดเคลื่อนมีสูง เพราะต้องคอยเปิดปิดตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะติดกับ Temp control เพื่อเปิดปิดได้แบบอัตโนมัติ แต่วิธีนี้จะทำให้น้ำระเหยออกไปจำนวนมากต่อวัน ซึ่งต้องคอยเติมน้ำ และวัดความเค็มอยู่สม่ำเสมอ
-ชิลเลอร์ ลักษณะการทำงานจะคล้ายๆกับตู้เย็น ราคาค่อนข้างสูง กินไฟพอสมควร เพราะทำงานค่อนข้างหนัก แต่ก็มีเครื่องเล็กกระทัดรัด
-คอ่ยด์ทำความเย็น การทำงานเหมือนแอร์ แต่ดัดแปลงมาใช้กับตู้ทะเล ราคาติดตั้งค่อนข้างสูง แต่ค่าไฟโดยรวมต่อเดือนจะถุกกว่าชิลเลอร์
8.ปั๊มทำคลื่น เป็นตัวจำลองคลื่นในท้องทะเล มีตัวคอนโทล มีหลายฟังค์ชั่น สำหรับการปรับคลื่นและแรงของปั๊ม
9.อุปกรณ์อื่นๆ
-ท่อ PVC และกาวทาท่อ PVC ในการเดินระบบน้ำขึ้นและน้ำลง
-ปลั๊กพ่วงควรใช้แบบมีสวิตช์ปิด-เปิด หรือมีคัตเอาท์ในตัว เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
-ถุงกรอง และขาแขวนถุงกรอง เพื่อใส่ไว้ในช่องกรองด้านใดด้านหนึ่งเพื่อรองรับสิงสกปรกและเศษตะกอนในเบื่องต้นของระบบกรอง
-ตัววัดความเค็มน้ำในตู้ทะเล ซึ่งมีออกมาขายหลายแบบ หลายราคา เช่น แบบเป็นปรอท แบบถ้วยตวง และแบบกล้องส่อง *แนะนำให้ใช้แบบกล่องส่องเพื่อความมีประสิทธิภายในการวัด ซึ่งจะคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด*
-ตัววัดค่าน้ำต่างๆ เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเลี้ยงตู้ทะเล ซึ่งก็มีหลายยี่ห้อ หลายราคาเช่นกัน ส่วนตัววัดที่มีความจำเป็นหลักๆ สำหรับผู้เริ่มเลี้ยงจะมีดังนี้
ค่า No2 หรือค่าไนไตรท์ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อปลา
ค่า No3 หรือค่าไนเตรด มีผลโดยตรงต่อปะการัง
ค่า KH หรือค่า คาบอเนต มีผลต่อสีและการเจริญเติบโตของปะการัง
ค่า Po4 คือค่า ฟอสเฟส มีมากเกินไปก็มีผลต่อสิ่งมีชีวิตในตู้ทะเล
-แบคทีเรีย มีหลายแบบหลายราคาให้คุณเลือก ทั้งของนอก ของไทย ราคาก็แตกต่างกันไปครับ
-น้ำทะเล และ/หรือ เกลือวิทยาศาสตร์ อย่าเผลอเอาเกลือแกงของแม่ที่อยู่ในครัวมาใช้หล่ะ ใช้ไมไ่ด้นะครับ เอามาใช้หล่ะงามไส้กั้นเลยทีเดียว อิอิ
-ตัววัดอุณหภูมิ ก็มีหลายแบบหลายราคาอีกเช่นกัน แต่แนะนำให้ใช้แบบ LED ที่มีปลั๊กเสียบไฟ เพราะจะมีความแน่นอนมากกว่าแบบใส่ถ่าน หรือแบบอื่นๆครับ